การประกันภัยรถยนต์ในประเทศไทย ปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ การประกันภัยภาคบังคับ กับ การประกันภัยภาคสมัครใจ
การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (COMPULSORY INSURANCE) หมายถึง การที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องทำประกันภัย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 รถที่ต้องทำประกันภัย ตามพระราชบัญญัตินี้ ได้แก่ รถที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก
รถที่ได้รับการยกเว้นตามพระราชบัญญัตินี้ ได้แก่
1. รถของสถาบันองค์พระมหากษัตริย์
2. รถของหน่วยงานราชการ กระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ ผลของการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ คือโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000.- บาท การจ่ายค่าสินไหมทดแทน สำหรับการประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
1. ค่าเสียหายเบื้องต้น
2. ค่าเสียหายส่วนที่เกินค่าเสียหายเบื้องต้น
ค่าเสียหายเบื้องต้น คือ ค่าเสียหายที่ต้องจ่ายในทันทีโดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท โดยบริษัทที่เป็นผู้รับประกันภัยรถคันที่เกิดเหตุ จะต้องดำเนินการจ่ายภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับเอกสารการเรียกร้องครบถ้วน หรือในกรณีที่รถคันที่ประสบอุบัติเหตุ ไม่ได้ทำประกันตามพระราชบัญญัตินี้ หรือไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจากรถคันใด ให้เบิกจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นจาก สำนักงานกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ
ค่าเสียหายเบื้องต้นมีดังนี้
1. กรณี บาดเจ็บ เบิกได้ตามที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลจริงแต่ไม่เกิน 15,000.-บาท ต่อคน
2. กรณีเสียชีวิต เบิกได้ 35,000.-บาท ต่อคน
3. กรณีบาดเจ็บและต่อมาเสียชีวิต เบิกค่ารักษาได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 15,000.-บาทต่อคนและเบิกกรณีเสียชีวิตได้อีก 35,000.-บาท ต่อคน รวมกันแล้วไม่เกิน 50,000.-บาท ต่อคน
ค่าเสียหายส่วนที่เกินค่าเสียหายเบื้องต้น
1. กรณีบาดเจ็บ เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่จ่ายจริง แต่เมื่อรวมกับค่าเสียหายเบื้องต้นแล้วต้องไม่เกิน 50,000.-บาท ต่อคน
2. กรณีเสียชีวิตทันที เบิกได้ 200,000.-บาท ต่อคน
3. กรณีประสบเหตุแล้วทำให้ทุพลภาพถาวร สามารถเบิกค่าทดแทน เมื่อรวมกับค่ารักษาพยาบาลแล้วไม่เกิน 200,000.-บาท ต่อคน
4. กรณีบาดเจ็บและต่อมาเสียชีวิต เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000.-บาท และเบิกค่า ทดแทนการเสียชีวิตรวมกันแล้วไม่เกิน 200,000.-บาท)
หลักเกณฑ์การพิจารณาค่าสินไหมทดแทน
การจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น จะต้องจ่ายให้กับผู้ประสบภัยทุกคน โดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท และต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น และบริษัทที่เป็นผู้รับประกันรถคันใด จะเป็นผู้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ประสบภัยในรถคันนั้น
การจ่ายค่าเสียหายส่วนที่เกินค่าเสียหายเบื้องต้น จะจ่ายต่อเมื่อสามารถพิสูจน์แล้วว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาทและต้องรับผิดบริษัทที่เป็นผู้รับประกันภัยรถที่เป็นฝ่ายประมาท เป็นผู้ที่ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนในส่วนนี้ ผู้ขับขี่ซึ่งเป็นผู้ประมาทจะเบิกค่าสินไหมทดแทนได้เฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น
เอกสารหรือหลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับค่าสินไหมทดแทน
กรณีความเสียหายต่อร่างกายใช้เอกสารดังนี้
1. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
กรณีทุพพลภาพถาวร
1. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3. ใบรับรองจากแพทย์
กรณีเสียชีวิต
1. สำเนาใบมรณะบัตร
2. สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวน